เอล กลาซิโก หนที่ 238 จบลงด้วยความสุขของแฟนบอลบาร์ซ่า

สำหรับนัดนี้บาร์ซ่าไม่มี ลิโอเนล เมสซี ซึ่งบาดเจ็บ เมื่อรวมกับที่มาดริดไร้ คริสเตียโน โรนัลโด ซึ่งย้ายทีมไปแล้ว นี่จึงเป็น เอล กลาซิโก หนแรกนับตั้งแต่ปี 2007 ที่ไม่มี 2 สตาร์ดังลงฟาดแข้งทั้งคู่

เกมนี้หัวใจสำคัญจึงเป็นการดวลกันระหว่าง 2 กองกลางทีมชาติโครเอเชียชุดรองแชมป์โลก 2018 อิวาน ราคิติช ของบาร์ซ่า ต้องเจอกับ ลูกา โมดริช ของมาดริด นอกจากนี้บาร์ซ่ายังมี หลุยส์ ซัวเรซ, ฟิลิปเป คูตินโญ ส่วนมาดริดมี คาริม เบนเซมา, แกเร็ธ เบล

เริ่มเกมมา 11 นาที ยอร์ดี อัลบา สปีดไปรับบอลทางฝั่งซ้ายจนได้เข้ามาทางริมกรอบเขตโทษ ก่อนตบย้อนให้ ฟิลิปเป คูตินโญ ซัดเข้าไปไม่ยาก บาร์ซ่าออกนำ 1-0

นาที 30 หลุยส์ ซัวเรซ โฉบมารับบอลในเขตโทษแล้วถูก ราฟาเอล วาราน ชนล้มลง ผู้ตัดสินจึงเรียกดูวีเออาร์ก่อนยืนยันให้จุดโทษเจ้าถิ่น ซัวเรซรับหน้าที่สังหารเองไม่เหลือซาก บาร์ซ่าทิ้งห่างไป 2-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 51 มาดริดเปิดบอลเข้าหน้าประตูแล้วแนวรับบาร์ซ่าสกัดไม่ขาดเข้าทาง มาร์เซโล อาศัยความนิ่งพักบอลหลบกองหลังหนึ่งจังหวะ ก่อนยิงเข้าไปให้ทีมเยือนไล่มา 1-2

นาที 56 มาดริดเกือบตีเสมอ จากจังหวะทำชิ่งกันไปมาจนเข้าทาง ลูกา โมดริช ได้แปในเขตโทษ แต่ดันแม่นเกินไปชนเสาเสียอีก

นาที 75 เซร์กี โรเบร์โต ลากจี้มาหน้าเขตโทษแล้วเปิดงัดไปเข้าทาง หลุยส์ ซัวเรซ สะบัดหัวโหม่งเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม บาร์ซ่านำห่าง 3-1

นาที 83 บาร์ซ่าทิ้งห่าง 4-1 เซร์กี โรเบร์โต จ่ายบอลให้ หลุยส์ ซัวเรซ หลุดไปตักบอลข้ามนายทวารสู่ก้นตาข่าย เป็นแฮตทริกของหัวหอกอุรุกวัยด้วย

นาที 87 อุสมาน เดมเบเล ลุยมาทางซ้ายแล้วเปิดเข้ากลางให้ อาร์ตูโร วิดัล โขกจมก้นตาข่ายให้บาร์ซ่านำห่างอีก 5-1 ก่อนจะจบสกอร์นี้ในที่สุด

หลังผ่านไป 10 นัดเท่ากัน บาร์ซ่าเก็บเพิ่มเป็น 21 แต้ม นำจ่าฝูงเช่นเดิม ด้านมาดริดไม่ชนะในลีก 5 นัดติดกัน มีอยู่ 14 แต้ม อยู่อันดับ 9 แทงบอล