ตำนานกองหลังแมนยู มิเกล ซิลแวสตร์ (Mikael Silvestre)

มิเกล ซิลแวสตร์ เริ่มอาชีพค้าแข้งของเขากับทีม เรนส์ สโมสรในดิวิชั่น 1 ของฝรั่งเศส ในปี 1995 GCLUB ในฤดูกาลแรกของเขา เขาได้ลงเล่นเพียง 1 นัด แต่ในปีต่อมาเขาก็ได้ลงเล่นมากขึ้น คือ 16 นัด และ 31 นัดในปีถัดมาจากนั้นไม่นานอินเตอร์ มิลาน ก็มองเห็นความสามารถของเขา และได้เซ็นสัญญาเขามาร่วมทีมในปี 1998 ในฤดูกาลนั้นซิลแวสตร์ ได้ลงเล่นใน กัลโช่ฯ 18 นัด และยิงได้ 1 ประตู ลงเล่นในฟุตบอลยุโรป 6 นัด โดย 1 ในนั้นเป็นนัดที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

ซิลแวสตร์ เล่นได้ทั้งตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค และฟูลแบ็ค ได้เซ็นสัญญาเข้ามาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 10 กันยายนปี 1999 เขาได้ใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษอยู่พอสมควร และก็ได้แสดงให้เห็นถึงฝีเท้า และทักษะของเขาที่ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องคว้าตัวเขามาร่วมทีม และกลายเป็นกองหลังคู่กับ ยาป สตัม ทั้งในเกมลีก และในฟุตบอลยุโรป

ในฤดูกาล 2000-2001 เขาได้ย้ายมาเล่นตำแหน่งแบ็คซ้าย อย่างสม่ำเสมอ และการได้ลงเล่นให้กับทีมในทุกๆ นัด ก็พัฒนาความสามารถของเขาด้วย ฟอร์มการเล่นของเขากับทีมปีศาจแดง ทำให้ถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ในเวลาต่อมาเขาลงเล่นให้กับทีมชาตินัดแรกในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ปี 2001 ในนัดกระชับมิตรระหว่างฝรั่งเศส และเยอรมัน ในสนาม สต๊าด เดอ ฟร้องซ์

โดยเขาถูกเปลี่ยนลงมาแทน มาแซล เดอไซญี่ ในนาทีที่ 77 โดยซิลแวสตร์ ได้ให้สัมภาษณ์หลังเกมนัดนั้นว่า “ผมภูมิใจมากที่ได้มีส่วนร่วม แม้จะเป็นเวลาเพียง 2 – 3 วัน ผมต้องเรียนรู้จากมันอย่างรวดเร็ว เพราะนัดกระชับมิตรมีเพียงไม่กี่วันให้เรียนรู้” หลังจากนั้นก็เขาก็ยังมีชื่อติดทีมชาติในนัดกระชับมิตรกับญี่ปุ่น และสเปน โดยมีการประกาศรายชื่อทีมชาติก่อนที่ภรรยาของเขาจะให้กำเนิดลูกสาวคนแรกเพียง 5 วันเท่านั้น โดยเขาตั้งชื่อลูกสาวของเขาคนนี้ว่า “Evy”

ในนัดที่พบกับญี่ปุ่น เขาได้ลงเล่นเป็นตัวสำรอง และเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในทีมชาตินัดแรกในวันที่ 28 มีนาคม หลังจากนั้นเขาก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงของทีมในนัดที่พบกับทีมชาติโปรตุเกส และเขาก็สามารถทำประตูแรกในทีมชาติได้ในนัดนี้ด้วย

เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น เขาก็ได้ชูถ้วยพรีเมียร์ชิพ เป็นครั้งที่ 2 โดยในฤดูกาลนี้เขาลงเล่น 46 นัด และยิงได้ 1 ประตู ในนัดที่พบกับเลสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงกลางเดือนมีนาคมฤดูกาลที่ดีของเขายังไม่จบลงเพียงเท่านั้น ในเดือนมิถุนายนปี 2001 เขาก็เป็นส่วนหนึ่งในทีมชาติฝรั่งเศส ที่คว้าแชมป์ คอนเฟดเดอเรชั่น คัพ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศ แต่ก็ได้ลงเล่น 2 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม อีกทั้งเขายังติดทีมชาติชุดฟุตบอลโลก 2002 แต่เป็นที่น่าผิดหวังว่าเขาไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติเพื่อช่วยป้องกันแชมป์ในครั้งนี้เลย

ซิลแวสตร์ ยังคงพัฒนาตัวเองในฐานะนักเตะต่อไปเรื่อยๆ ในฤดูกาล 2002-2003 เขาก็กลายเป็นนักเตะคนหนึ่งที่มีฟอร์มสม่ำเสมอที่สุดในชุดที่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิพ ครั้งที่ 8 ของสโมสร โดยเขาเป็นนักเตะในชุดปัจจุบันที่มีสถิติลงเล่นเกือบจะมากที่สุดในทีมแล้ว

และเขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค และช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมอย่าง เวส บราวน์ ได้อย่างดีด้วยหลังจากที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ต้องติดโทษแบนไปถึง 8 เดือน แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ทีมคว้าแชมป์มาได้ และในฤดูกาล 2003-2004 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เสียแชมป์ให้กับอาร์เซนอล

เขายังได้ลงเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศสอีกครั้งในศึกยูโร 2004 และในเดือนกันยายน 2004 ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก็กลับมาจากโทษแบน และนั่นก็ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวรับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ดีขึ้นจากการลงเล่นให้กับทีมปีศาจแดง มากกว่า 5 ปี เขาได้รับใบแดงแรกกับทีมในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2005 ในนัดที่ทีมชนะอาร์เซนอล ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งใบแดงครั้งนี้เกิดจากการที่เขาเอาหัวไปโขก เฟรดริค ลุงเบิร์ก

เว็บ GCLUBTH.NET ผู้สนับสนุนหลักมีบริการเว็บพนันออนไลน์ ที่นิยมมากหลากหลายช่องทางให้ลูกค้าเลือกเล่นไม่ว่าจะเป็น Gclub, Sbobet , Lsm99 , สมัครจีคลับ ,สมัครสโบเบ็ต , จีคลับ, ลีก88, สมัครลีก88 ,  League88 , สมัคร Gclub , สมัคร Sbobet, สมัคร Lsm99, สมัคร League88 , ทางเข้า Gclub , ทางเข้า Sbobet , ทางเข้า Lsm99, สมัคร League88 , สโบเบ็ต , slot , gclubมือถือ , มวยออนไลน์, lsm99 มือถือ , LEAGUE88 AGENT

โพสต์โดย : gclubth1 เมื่อ 7 ก.พ. 2562 14:47:48 น. อ่าน 474 ตอบ 0