ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก)
วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) - บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)
ถ่ายทอดสด : SuperSport 3, เวลา : 03.00 น.
สนาม : แอนฟิลด์
เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ลิเวอร์พูล พาทีมเข้ารอบนี้ ด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม ซี ก่อนชนะบอร์นมัธ 3-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 3 เกม
สภาพทีมเกมนี้ ที่แน่ๆ คล็อปป์จะไม่มี เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กองหลังตัวหลักที่ติดโทษแบน 1 นัด หลังสะสมใบเหลืองครบโควตา ซึ่งส่งผลกระทบกับแนวรับทีมไม่น้อย
ดังนั้น เป็นโอกาสของ โฌแอล มาติป ที่จะยืนคุมแนวรับร่วมกับเซนเตอร์ฮาล์ฟจำเป็นอย่างฟาบินโญ่ เพราะ เดยัน ลอฟเรน ก็ยังไม่สมบูรณ์ดี ขณะที่ โจ โกเมซ ยังเดี้ยงเหมือนเดิม กำลังอยู่ในช่วงเรียกสภาพความฟิตด้วยกันทั้งคู่
ส่วน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก็ต้องระวัง เพราะถ้าโดนจดชื่อ ก็จะชวดเล่นนัด 2 ที่อลิอันซ์ อารีน่าทันที
ข่าวร้ายของลิเวอร์พูลล่าสุด โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเนื่องจากป่วยเพราะติดเชื้อไวรัส จึงคาดว่าจะพลาดช่วยทีมและเปิดทางให้ เซอร์ดาน ชากีรี่ มีชื่อตัวจริง
ในแผงกลางและรุกคาดว่าจะไม่น่าปรับมากนัก คงจะยึด เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เซอร์ดาน ชากีรี่ และ ซาดิโอ มาเน่ ทำหน้าที่เช่นเดิม
ด้าน นิโก้ โควัช เทรนเนอร์บาเยิร์น มิวนิค พาทีมเข้ารอบนี้ในฐานะแชมป์กลุ่ม อี ก่อนชนะเอาก์สบวร์ก 3-2 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 3 นัดติด
ตอนนี้ถือว่าฟอร์มเสือใต้เริ่มเข้าที่มากๆ ตามมาอยู่อันดับ 2 ของตารางและห่างจากดอร์ทมุนด์จ่าฝูง เพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้น แต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด
สภาพทีมเกมนี้ โควัชจะชวดใช้งาน โธมัส มุลเลอร์ ที่ติดโทษแบน 2 นัด หลังโดนไล่ออกในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มและอุทธรณ์โทษไม่ผ่าน
นอกจากนี้ต้องลุ้นความฟิตของ คิงส์ลี่ย์ โกมัน ที่เจ็บข้อเท้ามาจากเกมล่าสุดด้วย แต่ในรายของ อาร์เยน ร็อบเบน และ โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ ชวดแน่นอน
ขณะที่ โจชัว คิมมิช ก็ต้องระวังตัว เพราะถ้าโดนใบเหลือง ก็จะติดโทษแบนในเกมนัด 2 เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ฮาเมส โรดริเกซ กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พร้อมจะลงปักหลักในแดนหน้า
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เซอร์ดาน ชากีรี่, ซาดิโอ มาเน่
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์
บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - โจชัว คิมมิช, นิคลาส ซือเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา - เลออน โกเร็ตซ์ก้า, ติอาโก้ อัลกานตาร่า - แซร์ช นาบรี, ฮาเมส โรดริเกซ, คิงส์ลี่ย์ โกมัน - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
เทรนเนอร์ : นิโก้ โควัช
ผู้ตัดสิน : จานลูก้า ร็อคคี่ (อิตาลี)
เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายมีชัยเหนือบาเยิร์น จากการเจอกันเกมยุโรปหนล่าสุดในยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2001
- ทีมหงส์แดงไม่เคยปราชัยตลอด 6 เกมล่าสุดที่ลงเล่นในรอบนี้ (ชนะ 5 เสมอ 1) และยังไม่เสียประตูเลย นับตั้งแต่แพ้บาร์เซโลน่าคาบ้าน 0-1 เมื่อ 2006-07
- ครั้งล่าสุดที่เจอทีมเยอรมัน ปรากฏว่าลิเวอร์พูลมีชัยไปกลับเหนือฮอฟเฟ่นไฮม์ (2-1 เยือน, 4-2 เหย้า) ในเกมเพลย์ออฟซีซั่นที่แล้ว
- ทีมเมอร์ซี่ย์ไซด์มีสถิติเจอทีมเมืองเบียร์แบบเหย้า-เยือนชนะ 14 แพ้แค่ 2 โดยได้ผ่านเข้ารอบตลอด 4 หนหลัง หรือนับตั้งแต่พ่ายเลเวอร์คูเซ่นด้วยกฎประตูทีมเยือนในรอบ 8 ทีม 2001-02
- ลิเวอร์พูลชนะคู่แข่งเยอรมันในบ้านมา 6 เกมรวด แต่ทีมสุดท้ายที่ไม่แพ้ในแอนฟิลด์ก็คือบาเยิร์น จากผลเสมอเมื่อ 1981
- ลิเวอร์พูลฟาดชัยตลอด 5 เกมชปล.ล่าสุดในรัง โดยรอบแบ่งกลุ่มซีซั่นนี้ชนะเปแอสเช 3-2, เร้ด สตาร์ เบลเกรด 4-0 และนาโปลี 1-0 อีกทั้งไร้พ่ายเกมเหย้า 19 นัดซ้อน หรือนับตั้งแต่โดนเรอัล มาดริดถล่ม 3-0 เมื่อ 22 ต.ค. 2014
- เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูลเคยเจอบาเยิร์นทั้งสิ้น 29 ครั้ง แบ่งเป็นชนะ 9 เสมอ 4 แพ้ 16 นับรวมสมัยคุมดอร์ทมุนด์ชิงถ้วยบิ๊กเอียร์เมื่อ 2013
- บาเยิร์นมีสถิติลงเล่นรอบ 16 ทีมชปล.ที่ดี เข้ารอบ 11 ครั้ง ร่วงแค่ 3 โดยสมหวังตลอด 7 หนล่าสุด และไม่เคยแพ้นับตั้งแต่เกมเจออินเตอร์ มิลาน เมื่อซีซั่น 2010-11
- รอบนี้เมื่อปีที่แล้ว เสือใต้ชนะเบซิคตัส 5-0 เหย้า และ 3-1 เยือน เป็นสถิติฟาดชัย 5 นัดรวดในรอบ 16 ทีม อีกทั้งยิงสลุต 31 ประตูจาก 7 เกมล่าสุดด้วย
- ผลงานพังสกอร์ดังกล่าวนับรวมเกมไล่ต้อนอาร์เซน่อล 5-1 ทั้งเหย้า-เยือนเมื่อ 2016-17 ซึ่งเป็นครั้งล่าสุดที่บาเยิร์นเจอทีมอังกฤษ
- ส่วนสถิติเจอคู่แข่งแดนผู้ดีนั้น บาเยิร์นชนะ 10 แพ้ 5 โดยได้เฮ 5 หนติดนับจากโดนเชลซีโค่นในสกอร์รวม 6-5 รอบ 8 ทีมซีซั่น 2004-05
- โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกบาเยิร์นรั้งดาวยิงสูงสุดชปล.ฤดูกาลนี้ โดยยิงไป 8 ลูกใน 6 เกมรอบแบ่งกลุ่ม
- เลวานดอฟสกี้ยังทำสกอร์ได้ตลอด 3 เกมเยือนชปล.ซีซั่นนี้ (4 ประตู) ที่เจอกับเบนฟิก้า, เออีเค เอเธนส์ (ชนะ 2-0 ทั้งคู่) และอาแจ็กซ์ (3-3)
- บาเยิร์นไร้พ่ายเกมเยือนยุโรป 8 นัดติดต่อกัน (ชนะ 6 เสมอ 2) และยิงอย่างต่ำเกมละ 2
- เซอร์ดาน ชากิรี่ ปีกสวิสของลิเวอร์พูลเคยสังกัดอยู่บาเยิร์นระหว่าง ก.ค. 2012-ม.ค. 2015 ยิงได้ 11 ลูกใน 52 เกมบุนเดสลีกา มีส่วนร่วมคว้าดับเบิลแชมป์ 2 ครั้ง ตลอดจนโทรฟี่แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ทั้งหมดนั้นในปี 2013
โพสต์โดย : salnasa เมื่อ 19 ก.พ. 2562 23:07:17 น. อ่าน 128 ตอบ 0