เบิร์นลี่ย์ฟอร์มดีรับมือไก่เดือยทอง
เบิร์นลี่ย์ไม่แพ้ใครในลีกมาแล้ว 7 นัดติดต่อกัน ซึ่งจนถึงตอนนี้มีเพียงแมนฯยูไนเต็ดเท่านั้นที่ยังอยู่ในช่วงไร้พ่ายมากกว่าพวกเขา และนับว่าเป็นช่วงที่ไร้พ่ายนานที่สุดของเบิร์นลี่ย์รองจากเมื่อเดือนพฤษภาคม - กันยายน ปี 1966 ที่ไม่แพ้ใครนานถึง 9 นัด
ขณะที่สเปอร์สชนะรวดมา 4 เกม และเก็บชัยชนะนอกบ้านได้ถึง 11 นัดในซีซั่นนี้ ส่วนในเรื่องการทำประตู คลับไก่ซัดประตูนอกกรอบเขตโทษได้ถึง 12 ลูก ซึ่งเป็นจำนวนเท่ากับที่เบิร์นลี่ย์เสียประตูนอกนอกกรอบในฤดูกาลนี้
แอชลี่ย์ บาร์นส์ หัวหอกฟอร์มร้อนของเจ้าถิ่น ซัดจุดโทษมาแล้วสองเกมติดต่อกัน และมีเพียง 5 คนเท่านั้นที่สามารถยิงประตูจากจุดระยะ 10 หลา ได้ 3 เกมติดต่อกัน
เลสเตอร์ตามล่าสามแต้ม พาเลซเด่นนอกบ้าน
เดอะ ฟ็อกซ์ หวังเอาชนะเกมแรกในรอบ 6 เกม จนถึงตอนนี้พวกเขาแพ้ในบ้านมาแล้วถึง 3 เกมติดต่อกัน และคงไม่อยากแพ้เป็นเกมที่ 4 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2000 มิหนำซ้ำ เจมี่ วาร์ดี้ เพิ่งทำประตูได้ในคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เพียง 2 ประตูเท่านั้น อีกทั้งเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันแล้วที่อดีตศูนย์ทีมชาติอังกฤษ ทำประตูไม่ได้ในบ้านตัวเอง
ดิ อีเกิ้ลส์ มักมีสถิติยามมาเล่นที่บ้านของเลสเตอร์ที่ดี โดยพวกเขาเก็บชัยชนะออกไปได้ถึง 3 เกม นอกจากนี้ เกมนอกรังของพาเลซในซีซั่นนี้ก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยม โดยประตูที่พาเลซทำได้ในลีกปีนี้ เกินกว่าครึ่งมาจากผลงานนอกบ้าน (67%)
ปืนใหญ่ในบ้านเด่น
อาร์เซน่อลตามล่าชัยชนะสองเกมติดต่อกันเพื่อทำตามล่าอันดับ4 จากแมนฯยูไนเต็ด โดยเดอะ กันเนอร์ส ไม่แพ้ใครต่อเซาร์แฮมป์ตันในบ้านมาแล้วถึง 23 เกม ซึ่งหนสุดท้ายต้องย้อนไปเมื่อ เดือนพฤศจิกายน ปี 1987
การเล่นในบ้านของไอ้ปืนใหญ่นับว่าโดดเด่นเหลือเกิน 12 เกมเข้าให้แล้วที่พวกเขาไม่แพ้ใคร และชนะได้ถึง 6 นัดติดต่อกัน อีกทั้งอาร์เซน่อลเก็บชัยชนะได้ถึง 30 เกมยามเล่นในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต่อทีมที่อยู่ในโซนตกชั้น
หากเซาธ์แฮมป์ตันเอาชนะได้ในเกมนี้ จะทำให้พวกเขาสามารถเอาชนะอาร์เซน่อลได้แบบไป-กลับ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1987/88 โดยในตอนนั้น อลัน เชียร์เรอร์ พังแฮตทริคได้ในการประเดิมสนามกับทีมนักบุญ
ขณะที่ หนึ่งคนของเซาธ์แฮมป์ตันที่มักทำผลงานได้ดีเวลาเจอปืนใหญ่คือ ชาร์ลี ออสติน ที่สามารถทำประตูใส่อาร์เซน่อลได้ถึง 5 เกมติดต่อกัน มีเพียงราฮีม สเตอร์ลิงเท่าไหร่ ที่มีสถิติยิงทุกนัดยามเจอบอร์นมัธ
ศึกแดงเดือดที่น่าจะเดือด
แมนฯยูไนเต็ด ไร้พ่ายในลีกนับตั้งแต่บุกไปแพ้ลิเวอร์พูล 1-3 จนเป็นที่มาของการปลดโชเซ่ มูรินโญ่ และได้โอเล่ กุนนาร์ โซลชาเข้ามาขัดตาทัพ ซึ่งสถิติเวลาเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ยามเจอกับลิเวอร์พูล ปีศาจแดง เก็บชัยชนะได้ถึง 7 นัดจาก 9 เกมหลังสุด
และนี่เป็นครั้งแรกที่ยูไนเต็ดรับมือกับลิเวอร์พูล โดยที่หงส์แดง มีอันดับเหนือกว่า ณ อันดับรองจ่าฝูง นับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 1996
หากลิเวอร์พูล บุกมาเก็บชัยที่โรงละครแห่งความฝันได้ จะเป็นครั้งแต่นับตั้งแต่ซีซั่น 2013/14 ที่พวกเขาชนะเร้ด เดวิลส์ ได้แบบเหย้า-เยือน และถึงแม้ลิเวอร์พูลจะแพ้เพียงเกมเดียวในการเล่นเป็นทีมเยือน 13 นัดหลังสุด แต่หงส์แดงก็ไม่สามารถบุกเอาชนะทีมที่อยู่ในอันดับท็อปโฟร์ได้มาแล้ว 7 เกม
โพสต์โดย : salnasa เมื่อ 23 ก.พ. 2562 21:06:21 น. อ่าน 134 ตอบ 0