เยาวชน 1,500 คนในโครงการ Football for Friendship เตรียมเยือนรัสเซียเดือนมิถุนายนนี้

          เนื่องในวันแห่งฟุตบอลและมิตรภาพนานาชาติ (International Day of Football and Friendship) ซึ่งตรงกับวันที่ 25 เมษายน ได้มีการจัดกิจกรรมพิเศษในกว่า 200 เมืองทั่วโลก เพื่อส่งเสริมมิตรภาพ ความเคารพซึ่งกันและกัน และการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี โดยเด็กและผู้ใหญ่หลายหมื่นคนได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตร คอร์สสอนฟุตบอล กิจกรรมกีฬาอื่นๆ รวมถึงแฟลชม็อบ ทุกคนที่เล็งเห็นความสำคัญของความเสมอภาค สันติภาพ และการเคารพในวัฒนธรรมที่แตกต่าง ได้พร้อมใจกันผูกเชือกข้อมือแห่งมิตรภาพสีฟ้า-เขียว อันเป็นสัญลักษณ์ของโครงการ Football for Friendship ที่ริเริ่มขึ้นโดยบริษัทก๊าซพรอม (Gazprom) โดยสีฟ้าเป็นตัวแทนของท้องฟ้าอันแสนสงบ ขณะที่สีเขียวสื่อถึงสนามฟุตบอลที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นทั่วโลกได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากนักฟุตบอลชื่อดัง โค้ชฟุตบอล พิธีกรรายการทีวี ดารานักแสดง และเจ้าหน้าที่จากภาครัฐ

          ในประเทศแอลจีเรีย นักกีฬารุ่นเยาว์ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมทำความสะอาดสนามฟุตบอลประจำเมือง ต่อด้วยการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างเด็กๆในพื้นที่กับยุวทูตจากโครงการ Football for Friendship ส่วนในประเทศแอฟริกาใต้ สโมสรฟุตบอลเยาวชน Young Bafana ได้จัดการแข่งขันฟุตบอลชายหาดนัดกระชับมิตร รวมถึงการแข่งขันกอล์ฟ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามิตรภาพเกิดขึ้นได้ในกีฬาทุกประเภท

          เยาวชนมากความสามารถจากทั่วโลกได้เข้าร่วมโครงการ Football for Friendship ฤดูกาลที่ 6 เช่น Yazan Taha ผู้สื่อข่าวเยาวชน บล็อกเกอร์คนดัง และนักวิจารณ์ฟุตบอลวัย 12 ปีจากซีเรีย ซึ่งเข้ามาเป็นสมาชิกศูนย์ผู้สื่อข่าวเยาวชนนานาชาติของโครงการนี้ และ Poadey Sebastien นักฟุตบอลรุ่นเยาว์จากเกาะนิวแคลิโดเนีย ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอายุน้อยที่สุดของสโมสร Stade de Koniambo Football Club และเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ

          Bennett Wehibe ยุวทูตจากสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า "ปีนี้ผมโชคดีมากที่ได้เข้าร่วมโครงการ Football for Friendship ค่านิยมหลักของโครงการนี้มีความหมายต่อผมมาก โดยเฉพาะความเสมอภาค ความเป็นธรรม และชัยชนะ เราอยู่ร่วมกันไม่ได้ถ้าขาดค่านิยมเหล่านี้ ผมดีใจมากที่จะได้ไปเที่ยวรัสเซียครั้งแรก ได้พบเพื่อนใหม่ และได้พัฒนาทักษะของตัวเอง"

          Swan Drame ยุวทูตจากฝรั่งเศส กล่าวว่า "หนูชอบฟุตบอลมาตั้งแต่ยังเล็ก หนูนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีกีฬาและเพื่อนๆ ขอบคุณโครงการ Football for Friendship ที่ทำให้หนูเข้าใกล้ความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ"